ไหนบอกตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำไม่ใช่หรอ …?!?!!อันที่จริงแล้วการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ ถึงจะความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่นะจ๊ะ
กองทุนรวมตราสารหนี้ เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐเช่น
ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือตราสารหนี้อื่น ๆ ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน และ หุ้นกู้เอกชน ซึ่งมีทั้งตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) และตราสารหนี้ระยะยาว
การดูความเสี่ยงของกองทุนตราสารหนี้จึงต้องพิจารณาพอร์ตว่ากองทุนลงทุนในตราสารหนี้อะไรบ้าง ผลตอบแทนมาจากความเสี่ยง หากเสี่ยงน้อย ผลตอบแทนก็น้อย หากเสี่ยงเยอะ ผลตอบแทนก็ควรจะเยอะตาม
ซึ่งความเสี่ยงของตราสารหนี้ประกอบด้วย
1. ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย (interest rate risk) โดยการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในตลาดส่งผลกระทบต่อราคาตราสารหนี้ ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยมักจะวัดออกมาเป็นค่า duration หรือความอ่อนไหวของราคาต่ออัตราดอกเบี้ย ยิ่ง duration เยอะเสี่ยงเยอะ duration น้อยเสี่ยงน้อย ตรงนี้เป็นจุดที่เม่าโดนผลกระทบเต็ม ๆ
2. ความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ (credit risk)
การวัดเครดิตเรตติ้งมี 2 กลุ่ม ได้แก่
– Investment grade ตั้งแต่ BBB ขึ้นไปจนถึง AAA
– Non investment grade หรือ junk ตั้งแต่ BB ลงมาถึง D (default)
3. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (liquidity risk) คือ ความเสี่ยงที่ตราสารหนี้จะไม่สามารถขายในราคาที่เหมาะสม ในเวลาที่ต้องการได้
4. ความเสี่ยงอื่นๆ เช่น กองทุนรวมที่ไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศก็จะมีความเสี่ยงเกี่ยวกับสภาวะทางการเมือง หรือเศรษฐกิจในประเทศที่ไปลงทุน ความเสี่ยงด้าน country risk รวมทั้งความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (foreign exchange risk) ด้วย
ความเสี่ยงทั้งหมดจะสะท้อนออกมาที่ yield ที่ผู้ลงทุนคาดหวังจากการลงทุน
เหตุที่ NAV กองทุนตราสารหนี้ที่เม่าลงทุนลดลงเพราะ yield ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาตราสารหนี้ลดลงนั่นเอง ในทางกลับกันก็มีโอกาสที่ราคาตราสารหนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้น หาก yield ลดลง ผู้ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิดจึงต้องระมัดระวัง เพราะราคา NAV จะปรับตาม yield เสมอ
ดังนั้นก่อนจะลงทุนในตราสารหนี้ ก็ต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนนะจ๊ะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะหน้าแตกแบบเม่า ^^’