หุ้นกู้ : 5เรื่องต้องรู้ก่อนลงทุนหุ้นกู้ SA – ไซมิส แอสเสท

0
2568

SA หรือ บมจ. ไซมิส แอสเสท เสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่

ถือสั้นๆ อายุ 1 ปี 3 เดือน ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี

เสนอขายในวงจำกัดต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ นักลงทุนรายใหญ่

อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทอยู่ที่ BB+ แนวโน้ม “คงที่”

(โดย ทริส เรทติ้ง ณ 27 กรกฏาคม 2565)

 

ที่ผ่านมามีข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับหุ้นกู้ในกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ ทำให้นักลงทุนหลายท่านหวาดผวา แค่เห็นเซคเตอร์ก็ส่ายหน้าละ ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร เพราะทุกคนควรลงทุนตามความเสี่ยงที่รับไหว ลงทุนแล้วกินอิ่มนอนหลับสบาย แต่สำหรับนักลงทุนที่เห็นดอกเบี้ยแล้วใจอ่อนระทวย อยากทำความรู้จักธุรกิจมากขึ้นก่อนตัดสินใจ ก็ตามพี่เม่ามาได้เลย

SA เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่ผู้บริหารมีพื้นฐานมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทำให้ SA เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่สามารถคุมต้นทุนได้ดี และมีเทคโนโลยีก่อสร้างใหม่ๆ เรียกได้ว่าถึงจะเป็นน้องใหม่แต่ก็ “มีของ” พอตัว

 โมเดลธุรกิจของ SA จะเน้นพัฒนาอสังหาฯ แบบ Mixed use คือจัดสรรพื้นที่บางส่วนสำหรับพักอาศัย บางส่วนเป็นเซอร์วิสเรสซิเดนท์หรือโรงแรมที่ให้แบรนด์ดังระดับโลกมาบริหารจัดการ เช่น Wyndham group, Accor group บางส่วนเป็นพื้นที่เช่าเพื่อการพาณิชย์ และมีธุรกิจสนับสนุนอย่างร้านอาหาร สปา ฯลฯ ทำให้โครงการของ SA ไม่ใช่แค่คอนโดแท่งแห้งๆ แต่คึกคัก มีแบรนด์ มีคอมมูนิตี้ ที่ช่วยสร้างมูลค่าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 ธุรกิจดูน่าสนใจ แต่สำหรับผู้ลงทุนในหุ้นกู้ เราก็แค่อยากรู้ว่าบริษัทจะสามารถจ่ายดอกเบี้ยทุก3 เดือนได้ไหม และเมื่อครบกำหนดในอีก 1 ปี 3 เดือนข้างหน้า จะมีเงินมาคืนเราไหม

งั้นมาดู 5 เรื่องต้องรู้ก่อนลงทุนหุ้นกู้ SA กัน

  1. ผลประกอบการย้อนหลังเป็นบวกตลอด : SA เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่เผชิญวิกฤตโควิดไม่ต่างจากบริษัทอื่น แต่ก็สามารถประคับประคองตัวเองให้ผ่านมาได้ โดยผลประกอบการเป็นบวกมาโดยตลอด มีรายได้ 3 ปีย้อนหลัง (2563-2565) อยู่ที่ 3,740 ล้านบาท,2,435 ล้านบาท และ 2,515 ล้านบาท ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6%, 5.9% และ 9.0%
  1. มีการกระจายความเสี่ยงเรื่องรายได้ : SA มีรายได้จากหลายช่องทาง ธุรกิจหลักก็เน้นพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น เน้นโครงการหรูๆ ไฮด์เอนท์ ซึ่งข้อดีของโครงการแนวราบคือสร้างเร็ว ขายเร็ว รับรู้รายได้ได้เร็ว ปีนี้เปิดตัวใหม่ 5 โครงการรวมกว่าหมื่นล้านบาท และยังมีรายได้แบบ Recurring income จากธุรกิจโรงแรมชั้นนำ 6 แห่ง (และกำลังสร้างเพิ่มอีก 5 แห่งด้วยนะ) รวมถึงธุรกิจให้เช่าพื้นที่ ร้านอาหาร สปา ฯลฯ รวมๆ ปีนี้น่าจะมี Recurring income ประมาณ​ 600 ล้านบาท
  1. มี Backlog และสต็อกพร้อมขาย : SA มี Backlog หรือโครงการที่ขายได้แล้วรอโอน อยู่ประมาณ​ 6,000 กว่าล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยในปีนี้มีโครงการใหญ่อย่าง Landmark @MRTA Station ที่คาดว่าเริ่มทยอยโอนได้ใน Q3/2566 ซึ่งเฉพาะโครงการนี้ก็มี Backlog 4,000 กว่าล้านบาทแล้ว (แต่คงไม่ได้โอนหมดในปีนี้ปีเดียว) รวมถึงมีสต็อกอสังหาฯ พร้อมขายอีกเป็นหมื่นล้าน ที่น่าจะขายได้เรื่อยๆ เฉลี่ยเดือนละ 150-200 ล้านบาท
  1. สภาพคล่องที่น่าจะบริหารจัดการได้ : SA มีหนี้สินหมุนเวียนที่ต้องชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้าประมาณ 1,976 ล้านบาท ในขณะที่มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 626 ล้านบาท วงเงินกู้ยืมสำรองประเภทหมุนเวียนที่ยังไม่ได้เบิกอีก 370 ล้านบาท และหุ้นกู้รอบนี้ที่กำลังจะออกอีก 900 ล้านบาท สินค้าคงเหลือ 10,051 ล้านบาท (ข้อมูลจากงบการเงินรวมสิ้นปี 2565) และยังมีรายได้เข้ามาจากธุรกิจต่อเนื่อง จึงคาดว่าสภาพคล่องน่าจะอยู่ในระดับที่ SA บริหารจัดการได้
  1. คาดว่าปีนี้รายได้จะทำ New High : ปีนี้ SA มองว่าเป็นฤดูเก็บเกี่ยว โครงการใหญ่ที่สร้างมาหลายปีก็จะเริ่มเสร็จปีนี้ โรงแรมทำเลใจกลางเมืองที่ซุ่มพัฒนาในช่วงโควิด 6 แห่ง ร้านอาหาร สปา ก็พร้อมเปิดให้บริการรับนักท่องเที่ยว คาดการณ์ว่าจากนี้ธุรกิจจะสร้างรายได้แบบ New High โดยผู้บริหารบอกนี่ประเมินแบบถ่อมตัวสุดๆ แล้วรายได้ก็น่าจะอยู่ที่ 6,000 ล้านขึ้น โดยมาจาก….
  • โครงการ Landmark @MRTA Station น่าจะโอนได้สัก 1,500 ล้าน (จาก Backlog 4,000 กว่าล้าน)
  • โครงการแนวราบ 2,500 ล้านบาท (จากมูลค่าโครงการแนวราบรวม 13,000ล้านบาท)
  • อสังหาพร้อมขายที่ทยอยขายได้ทุกเดือนอยู่แล้ว น่าจะได้รวม 1,500 – 2,000 ล้านบาท
  • ธุรกิจโรงแรม 400 ล้านบาท
  • ธุรกิจอื่นๆ (เช่าพื้นที่ สปา ร้านอาหาร ฯลฯ) 200 ล้านบาท

 หากอ่านมาถึงตรงนี้ ประเมินตัวเอง ประเมินกิจการ แล้วคิดว่าสามารถรับความเสี่ยงของหุ้นกู้ตัวนี้ได้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและเตรียมเงินไว้จองซื้อได้เลย แต่หากยังไม่แน่ใจก็รอก่อนได้ หุ้นกู้มีออกมาเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อนจ้า 🙂

จองซื้อ 25-27 เมษายน 2566

เสนอขายในวงจำกัดต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ นักลงทุนรายใหญ่

เริ่มต้นที่ 1 แสนบาทและทวีคูณของ 1 แสนบาท

ขอรายละเอียดเพิ่มเติมและจองซื้อหุ้นกู้ได้ที่ผู้จัดจำหน่ายทั้ง 9 แห่ง

  1. บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) 02-351-1800
  2. บริษัท หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) 02-658-8945
  3. บริษัท หลักทรัพย์ โกลเบล็ก จํากัด 02-687-7159
  4. บริษัท หลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จํากัด 02-430-6545
  5. บริษัท หลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จํากัด (มหาชน) 02-660-6688
  6. บริษัท หลักทรัพย์ เอเอสแอล จํากัด 02-853-9322
  7. บริษัท หลักทรัพย์ บียอนด์ จํากัด (มหาชน) 02-820-0100
  8. บริษัท หลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จํากัด 02-846-8675
  9. บริษัท หลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน) 02-205-7000

หรือ ลงทะเบียนเพื่อสอบถามข้อมูลและแจ้งความประสงค์ได้ที่

https://bit.ly/SADebentureMar2023


ที่มาข้อมูล :

– SA opportunity day , 9 มีนาคม 2566

– #merchantwealthexclusive “ไซมิส แอสเสท” พร้อมเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว ตลาดอสังหาฯเมืองไทย , 20 มกราคม 2566