พูดถึงบริษัทอสังหาฯ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง LPN เพราะเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 35 ปี และเป็นผู้พัฒนาโครงการคุณภาพ ครบวงจร ในราคาที่เหมาะสม
จุดแข็งมาก ๆ อีกอย่างของ LPN ก็คือ การมีนิติบุคคลที่บริหารจัดการในแต่ละโครงการได้ดีเยี่ยม ทำให้ลูกบ้านพักอาศัยได้อย่างสบายใจ
แต่สำหรับใครที่กำลังมองหาการลงทุนที่ทำให้เราสบายใจ เหมือนกับการอยู่โครงการของ LPN ต้องนี่เลย..
LPN หรือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กำลังจะเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ มีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจ และมีให้เลือก 2 ชุด แบ่งออกเป็น
– ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 5.10% ต่อปี
– ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 5.40% ต่อปี
ทั้ง 2 ชุด จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้
อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ อยู่ที่ระดับ BBB แนวโน้มลบ
จัดอันดับโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566
อย่ารอช้า เราไปเจาะลึกธุรกิจ LPN กับพี่เม่ากันดีกว่า
LPN เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 35 ปี เรียกได้ว่าผ่านมาทุกวิกฤติ ตั้งแต่ต้มยำกุ้ง ซับไพรม์ หรือแม้กระทั่งในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา ทำให้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดีว่า ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติอะไร LPN ก็เอาอยู่
ความน่าเชื่อถือของ LPN ดูได้จากผลประกอบการของบริษัทที่เป็นบวกมาโดยตลอด ดังนี้
ปี 2563 รายได้ 7,450 ล้านบาท กำไร 716 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 5,595 ล้านบาท กำไร 302 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 10,301 ล้านบาท กำไร 612 ล้านบาท
9 เดือน ปี 2566 รายได้ 5,562 ล้านบาท กำไร 336 ล้านบาท
ไม่ใช่แค่เรื่องผลการดำเนินงานที่เป็นบวกเท่านั้น แต่ LPN เองก็ยังมีแผนที่จะเติบโตไปในอนาคต โดยการขยายฐานลูกค้า จากกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ไปสู่กลุ่มลูกค้าระดับบนมากยิ่งขึ้น
โดยการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมระดับพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ เรสซิเดนซ์ 168, เมซอง 168 และยังเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ภายใต้แบรนด์ เอิร์น บาย แอล.พี.เอ็น. ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ในกลุ่มการพัฒนาโครงการที่เหมาะแก่การลงทุน (Investor Program)
รวมแล้วช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา LPN เปิดตัวโครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และสามารถสร้างยอดขายไปแล้วกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงมี Backlog ที่รอการรับรู้รายได้อีกกว่า 2,800 ล้านบาท
ส่วนเรื่องสภาพคล่องก็ไม่ต้องห่วง ถึงแม้จะเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง บริษัทยังสามารถบริหารกระแสเงินสดได้เป็นอย่างดี จากงบกระแสเงินสดที่เป็นบวก โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.22 เท่า และมีความสามารถในการชำระหนี้ (ICR) 1.79 เท่า นอกจากนี้ บริษัทยังมีที่ดินเปล่าและที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จที่ปลอดภาระหนี้อีกกว่า 6.9 พันล้านบาท ที่สามารถนำไปเป็นหลักประกันเพื่อขอวงเงินกู้ยืมจากธนาคารในกรณีที่จำเป็นอีกด้วย สำหรับการออกหุ้นกู้ของ LPN ครั้งนี้ ก็เพื่อนำไปชำระคืนหุ้นกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ภายในปี 2567
สุดท้ายนี้ต้องบอกด้วยว่า หุ้นกู้ LPN ไม่ได้ออกเสนอขายบ่อย ๆ คราวนี้เลยถือเป็นโอกาสในการลงทุน และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ดี
หุ้นกู้ LPN อยู่ก็สบายใจ ลงทุนก็น่าสนใจ แบบนี้รอช้าไม่ได้แล้ว
โดยหุ้นกู้ LPN คาดว่าจะเปิดจองซื้อ 23 – 25 มกราคม 2567 นี้
เสนอขายให้ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน โดยเสนอขายขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ LPN สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.sec.or.th
และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม จากผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 7 แห่ง ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
-ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bualuang mBanking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
-ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
-บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
-บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร 02-009-8351-56
-บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050
-บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) โทร. 02-625-2422
-บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-846-8675
#MAOxLPN
*ข้อมูลจากทริสเรทติ้ง 27 พ.ย. 2566
Disclaimer : ข้อมูลชุดนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ในธุรกิจของบริษัทฯ และรายละเอียดของหุ้นกู้ ผู้จัดทำมิได้ให้คำแนะนำในการเสนอซื้อหรือขาย หรือส่งเสริมให้มีการซื้อขายหลักทรัพย์ รวมทั้งการซื้อขายกับผู้จัดทำ ข้อมูลที่ปรากฏนำมาจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทฯ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนการตัดสินใจลงทุน
