ช่วงนี้นักลงทุนอาจเห็นข่าวของหุ้น ALPHAX หรือ บมจ. อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ อยู่บ่อย ๆ แต่ชื่อไม่คุ้นเลย
หุ้นตัวนี้ทำธุรกิจอะไร ? เข้าตลาดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ทำไมเพิ่งเคยได้ยิน ? ล้อมวงกันเข้ามาเดี๋ยวพี่เม่าจะเล่าธุรกิจของ ALPHAX ให้ฟัง
ความจริง ALPHAX เป็นหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2556 รู้จักกันในนาม OCEAN แต่เพิ่งถูกรีแบรนด์ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของบริษัท ที่ไม่ได้ทำธุรกิจซื้อขายน้ำมันปาล์มอย่างที่นักลงทุนเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว
ปัจจุบัน ALPHAX เดินในถนนสายใหม่ โดยมีธุรกิจหลัก 2 กลุ่มคือ “ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ” และ “ธุรกิจสารสกัดจากกัญชง” ภายใต้การนำของทีมบริหารชุดใหม่ทั้งหมด
? ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ
ถึงจะเพิ่งเริ่มลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ แต่ ALPHAX ไม่ใช่มือใหม่ในวงการ เพราะคุณธีร ชุติวราภรณ์ CEO คนปัจจุบัน ( และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ALPHAX ) เคยดำรงตำแหน่ง CEO และเป็นทายาทของ V Property บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2552 มีโครงการที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายโครงการ
การมาของผู้บริหารชุดใหม่พร้อมธุรกิจพัฒนาอสังหาฯและองค์ความรู้จาก V Property จึงสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างมหาศาลให้บริษัทฯ
พิสูจน์ได้จากปี 2563 ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ สามารถพลิกฟื้นบริษัทฯจากที่เคยขาดทุนจากธุรกิจเดิมติดต่อกัน 3 ปี ให้มีกำไรได้ในปีแรกที่เข้าลงทุน แม้จะอยู่ในช่วงการระบาดของ Covid-19 ก็ตาม
ปัจจุบัน ALPHAX มีโปรเจคพัฒนาอสังหาฯ ภายใต้ V Property 5 ตัวที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2565-2568 มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. คอนโดมิเนียม IKON Sukhumvit 77 มูลค่า 1,170 ล้านบาท เป็นธุรกิจอสังหาฯ ตัวแรกที่บริษัทฯเข้าลงทุนและสามารถสร้างผลกำไรให้นักลงทุนเป็นที่ประจักษ์ได้ คาดว่าจะสามารถปิดโครงการได้ในปี 2565
2. คอนโดมิเนียม IKON อุดมสุข มูลค่า 600 ล้านบาท อยู่ในระหว่างก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันขายได้แล้วรอโอน(Backlog) กว่า 80% คาดว่าจะรับรู้รายได้ปี 2565-2566
3. บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ The valor รามอินทรา 62 มูลค่าโครงการ 480 ล้านบาท มีเพียง 25 หลัง เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่มีกำลังซื้อสูง คาดว่าเริ่มโอนต้นปี 2565
4. อาคารสำนักงาน V Tower Office Building ติดบีทีเอสพระโขนง ที่เป็น Interchange ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเทา มูลค่าโครงการ 5,500 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2566 และโครงการนี้จะสร้าง recurring income ให้บริษัทฯได้ในอนาคต
5. คอนโดมิเนียม The 38 Sukhumvit ใกล้บีทีเอสทองหล่อ มูลค่า 1,050 ล้านบาท วางแผนรับรู้รายได้ปี 2567
?ธุรกิจสารสกัดกัญชงกัญชา
สารสกัดกัญชง-กัญชา จัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจและถือเป็นธุรกิจ New S-Curve ในไทย โดย ALPHAX จัดตั้งบริษัทย่อย KTDM ลงทุนในเครื่องจักรที่มีศักยภาพสูง ติดตั้งที่โรงงานของ JP ในจังหวัดลำพูน
Q4/64 สามารถผลิตสารสกัดจากกัญชงได้ 300 กก.ต่อเดือน และกำลังจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีกร้อยเท่าสู่ 30 ตันต่อเดือน คาดว่าจะรับรู้รายได้เครื่องใหญ่ภายใน Q3/65
ซึ่งจุดเด่นที่แข่งขันได้ของธุรกิจนี้คือ เครื่องจักรที่ล้ำสมัย สามารถแยกสารสกัดได้ถึง 6 รูปแบบ (ซึ่งปัจจุบันคู่แข่งในตลาดยังไม่มีใครทำได้) พร้อมรองรับออเดอร์ลูกค้าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยา อาหารเสริม และเครื่องสำอาง
แน่นอนว่าไม่ได้ซื้อเครื่องมาตั้งรอออเดอร์เฉยๆ เพราะบริษัทฯได้ทำเชิงรุก เซ็น MOU ร่วมกับบริษัทมหาชนอีก 2 แห่งคือ JP และ SUN ที่มีจุดเด่นทางธุรกิจที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อผนึกกำลังกันสร้างโปรดักส์กัญชง-กัญชาออกสู่ตลาดในอนาคต ( ALPHAX จัดหาวัตถุดิบและผลิตสารสกัด – JP วิจัยและพัฒนาสูตรตำรับผลิตภัณฑ์ – SUN จัดจำหน่าย ) คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจสารสกัดกัญชง-กัญชาได้ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
?การพลิกโฉมใหม่ทั้งหมดนี้ ทำให้ ALPHAX ภายใต้การนำของทีมบริหารรุ่นใหม่ จะสามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคง และมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด จัดเป็น “หุ้น Turnaround” อีกตัวหนึ่งที่น่าจับตามอง นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้นเดิม ส่วนผู้ที่สนใจลงทุนต้องศึกษาธุรกิจ และคำนวณราคาที่เหมาะสมด้วยตนเองก่อนลงทุนทุกครั้งนะจ๊ะ ด้วยรักจากพี่เม่า
